ผักหวานบ้านgooseberry)
จัดเป็นผักพื้นบ้านไทยนิยมนำใบอ่อน และยอดอ่อนมารับประทานสด และใช้ประกอบอาหาร โดยเฉพาะสำหรับเป็นผักจิ้มน้ำพริก และอาหารที่มีรสเผ็ดหรือใช้ประกอบอาหารในหลายเมนู อย่าง แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง ฯลฯ เนื่องจากใบมีความกรอบและมีรสหวานอร่อยกินง่าย
ประโยชน์ผักหวานบ้าน
1. ใบอ่อน และยอดอ่อนของผักหวานบ้าน นิยมรับประทานสดคู่กับกับข้าวที่มีรสเผ็ด อาทิ น้ำพริก หรือใส่ทำเป็นแกง ซุปหน่อไม้ เป็นต้น เนื่องจากใบอ่อน และยอดอ่อนมีความกรอบ ให้รสหวาน นอกจากนั้น ยังใช้ประกอบอาหารในหลายเมนู อาทิ แกงอ่อม แกงเลียง และแกงจืด เป็นต้น แต่หากทำสุกความหวานจะลดลง ไม่เท่ากับการรับประทานผักหวานสด การต้มผักหวานจนสุกอีกทั้ง ยังทำให้มีกลิ่นเหม็นเขียวเล็กน้อย
2. ใบอ่อน และยอดอ่อนผักหวาน นำมาล้างนำให้สะอาด นำไปตากแดดให้แห้ง 7-10 วัน สามารถใช้ชงเป็นชาดื่มได้ในประเทศฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เชื่อว่าใบ และยอดผักหวานบ้าน สามารถช่วยกระตุ้นการเพิ่ม และการหลั่งน้ำนมได้ จึงนิยมใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะโคนม เพื่อให้มีน้ำนมเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ ผักหวานบ้านสามารถใช้เป็นอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วไปได้ โดยเฉพาะโค กระบือ แพะ และแกะ ซึ่งหากคุณกำลังมองหารั้วมาล้อมเลี้ยงสัตว์สามารถสั่งซื้อรั้วล้อมสัตว์ของคุณได้ที่ รั้วเกษตร รั้วแข็งแรง สามารถล้อมสัตว์เล็ก อย่าง ไก่ เป็ด กระต่าย สุนัข และสัตว์ใหญ่ อย่าง วัว โคนม ล้อมด้วยรั้วตาข่ายเหล็กอย่างดี สนใจติดต่อสอบถาม โทร.062-3492245 รั้วเกษตร
พิษ และข้อควรระวัง
การศึกษาเสริผักหวานบ้านให้แก่กระต่าย พบว่า สามารถเพิ่มการหลั่งน้ำนมได้ แต่มีผลข้างเคียง คือ มีผลต่อการแท้งลูก
จากการศึกษาใช้ผักหวานบ้านเป็นอาหารเสริมให้กับไก่เนื้อ ที่ปริมาณ 10-30 กรัม/น้ำหนักตัวกิโลกรัม พบว่า การให้ผักหวานบ้านไม่มีผลต่อการเพิ่มน้ำหนักตัว และปริมาณโปรตีน แต่พบว่ามีผลต่อการลดลงของปริมาณไขมันที่สะสมในตัวปลาได้
วิธีปลูกผักหวานบ้าน
การปลูกผักหวานบ้าน ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝนจนถึงกลางฤดูฝน โดยใช้ต้นพันธุ์จากกิ่งปักชำหรือกล้าเพาะเมล็ดที่แตกใบแล้ว 5-7 ใบ หรือมีความสูงของต้นกล้า ประมาณ 20-30 เซนติเมตร นำปลูกลงหลุมที่เตรียมไว้ อย่าลืมล้อมรั้วด้วยรั้วตาข่ายเกษตรด้วยนะค่ะ มิฉะนั้น สัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะเข้ามากิน มาทำลายทำให้ต้นผักหวานของคุณไม่ขึ้น คุณควรป้องกันไว้ ระหว่างที่กำลังเพาะเลี้ยงต้นผักหวานให้เจริญเติบโตเต็มวัย ควรล้อมรั้วตาข่ายเกษตร ซึ้งทำมาเพื่อป้องกันสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่บุกรุกทำลายผักที่ยังเป็นอนุบาลอยู่ ปรึกษาเพิ่มเติม โทร. 062-3492245 รั้วเกษตร
การใส่ปุ๋ย
สำหรับปุ๋ยเคมีให้ใส่เดือนละครั้ง ส่วนปุ๋ยคอกให้ใส่ 3 เดือน/ครั้ง โดยปุ๋ยเคมีจะใช้สูตร 15 – 15 -15 เป็นหลัก สลับกับสูตร 13 – 21 – 21 เช่น 2 เดือน แรก ใส่สูตร 15 – 15 – 15 ไป เดือนต่อไปให้ใส่สูตร 13 – 21 -21 และพอเดือนถัดไปให้กลับมาใช้สูตร 15 – 15 -15 อีกครั้ง โดยใช้การโรยรอบโคนต้นหรือแบบหว่านข้าวให้ทั่ว ทั้งนี้ ควรเพิ่มปุ๋ยคอกร่วมด้วย เพราะจะทำให้ยอดผักหวานมีรสหวาน และกรอบมากขึ้น รวมถึงลดกลิ่นเหม็นเขียว
การให้น้ำ
หลังการปลูก ซึ่งจะปลูกในต้นฤดูฝนจนถึงกลางฤดูฝน ช่วงนี้ต้นพันธุ์จะได้รับน้ำจากฝนอย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอต่อการเติบโตไปจนถึงฤดูแล้งได้ เมื่อถึงฤดูแล้ง ควรให้น้ำเพิ่ม สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงการเก็บยอดอ่อน
การตัดแต่งกิ่ง
การตัดแต่งกิ่ง หรือ การทำสาว เป็นการตัดแต่งต้น และกิ่งผักหวานที่เติบโตยาวหรือสูงเกินไป ทำให้การเก็บยอดไม่สะดวก โดยนิยมตัดแต่งกิ่งเมื่อต้นผักหวานเติบโตได้ ประมาณ 1 ปี และจะตัดแต่งกิ่งในทุกๆปี การตัดแต่งกิ่งนั้น ให้ตัดสูงเหลือต้นประมาณหัวเข่าหรือถึงเอว กิ่งที่ตัดทิ้ง ให้คัดเลือกนำไปปักชำขยายพันธุ์ต่อ เพื่อจำหน่ายหรือปลูกขยายเพิ่ม ทั้งนี้ หลังการตัดแต่งกิ่งแล้วให้รดน้ำตามปกติภายใน 15 วันผักหวานจะให้ผลผลิตที่แตกออกมาอีกครั้ง
การเก็บยอดอ่อน ให้เก็บในช่วงเช้าจนถึงก่อน 10 โมงเช้า หากเลยมากกว่านั้น แดดจะร้อน ใบ และยอดอ่อนจะเริ่มอ่อนตัว ยอดไม่สด และเก็บไว้ได้ไม่นาน
อ้างอิงจาก : puechkaset